มหัศจรรย์สีเขียว
ถึงแม้ว่าการที่สาหร่ายใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในการสร้างไขมัน จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในกรณีนี้ ปริมาณจำนวนมากของไขมันที่สาหร่ายผลิตได้ถือเป็นเรื่องสำคัญ สาหร่ายที่อุดมไปด้วยไขมัน นี้ เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตไบโอดีเซล
ความสำเร็จในการพัฒนาไบโอดีเซลจากสาหร่ายในเชิงพาณิชย์ ก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่จับต้องได้มากมาย เชื้อเพลิงจากสาหร่ายปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าเชื้อเพลิงจากแหล่งพลังงานทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้เราเปลี่ยนไปสู่การใช้แหล่งพลังงานที่ปล่อยก๊าซปริมาณต่ำได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การใช้สาหร่ายเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการผลิตไบโอดีเซล ก็ต่างจากการใช้พืชอื่นๆ เช่น ข้าวโพด เพราะการใช้สาหร่ายจะไม่ส่งผลกระทบกับการผลิตอาหาร
การปลูกสาหร่ายที่อุดมด้วยไขมันจำนวนมาก ไม่ได้เกิดขี้นในชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง SGI และเอ็กซอนโมบิล ที่เริ่ม มาตั้งแต่ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ โดย SGI ซึ่งเป็นผู้นำด้านการใช้พันธุกรรมศาสตร์และชีววิทยาสังเคราะห์ ในการสร้างระบบที่ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายของโลกในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผลงานของ SGI ส่งผลกระทบที่ถาวรต่ออุตสาหกรรมยารักษาโรค การทำวัคซีน และโภชนากร เมื่อมาร่วมงานกับเอ็กซอนโมบิล ทั้งคู่กำลังแก้ปัญหาการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนโดยการใช้สาหร่าย
เพื่อเพิ่มการผลิตไขมัน นักวิทยาศาสตร์ ของ SGI และของเอ็กซอนโมบิล ต่างทำงานในฐานะนักโภชนาการ โดยคัดแยกยีนส์ต่างๆ ของสาหร่ายซึ่งทำหน้าที่สะสมไนโตรเจน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญ ผลที่ได้คือ สาหร่ายที่มีไขมันสะสมถึงร้อยละ ๔๐ ของน้ำหนัก ซึ่งนับว่ามากกว่าปริมาณไขมันในสาหร่ายปกติมากกว่าสองเท่า
“เรารู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่สาหร่ายจะสามารถใช้ผลิตไบโอดีเซล ได้มากกว่าพืชชนิดอื่นๆ เช่น ข้าวโพด และถั่วเหลือง เพราะสาหร่ายไม่ต้องใช้ที่ดินและน้ำจืดจำนวนมากในการเพาะปลูก” อเลสซานโดร ฟาลดี (Alessandro Faldi) นักวิทยาศาสตร์ของเอ็กซอนโมบิล อธิบาย
“นับเป็นเรื่องตื่นเต้นตอนที่รู้ว่าเราค้นพบอะไร” ร็อบ บราวน์ (Rob Brown) ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ในโครงการสาหร่ายของ SGI เล่า “หลังจากทดสอบสิ่งที่ค้นพบใหม่ และทดสอบซ้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าผลที่ได้ถูกต้อง ก็มีเสียงไชโยดังขึ้นในห้องทดลอง บรรยากาศเหมือนงานฉลองที่มีคนตีลังกาผ่านห้องโถง นับเป็นความรู้สึกหลังจากพบว่างานวิจัยที่ทำมาหลายปีมีความคืบหน้าไปไกลมาก”
ฟาลดี และบราวน์ ต่างก็ย้ำว่าการค้นพบนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ทีมงานยังต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายอื่นต่อไป แต่ฟาลดี ได้รับแรงบันดาลใจจากการค้นพบใหม่นี้ และคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญและเป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยกระชับความร่วมมือของ SGI และเอ็กซอนโมบิล ในการพัฒนาไบโอดีเซลจากสาหร่ายในเชิงพาณิชย์
“นี่เป็นขั้นตอนสำคัญ แต่เรื่องสำคัญคือการพุ่งความสนใจไปยังทิศทางที่เราจำเป็นต้องไป” ฟาลดี กล่าว “เราจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถของสาหร่ายในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นชีวมวล เพื่อเพิ่มผลผลิตของไขมันต่อไป และเราจะเริ่มทดลองและสร้างสาหร่ายที่สามารถเติบโตภายใต้สภาพที่หลากหลายมากขึ้น หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล”
พูดง่ายๆ นวัตกรรมคือสิ่งร้อยเรียงความสำเร็จ และการค้นพบใหม่นี้ เป็นก้าวสำคัญสู่การทำให้การผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่าย เป็นจริงขึ้นได้